ขนมแมว: รางวัลแสนอร่อยสำหรับเจ้าเหมียว
ขนมแมวเป็นของว่างที่มอบให้กับแมวเพื่อเป็นรางวัลหรือเพื่อความเพลิดเพลิน ขนมมีหลากหลายประเภท แต่ละประเภทก็มีจุดเด่นและจุดด้อยแตกต่างกันไป เจ้าของแมวควรเลือกขนมให้เหมาะสมกับสายพันธุ์ อายุ สุขภาพ และกิจกรรมของแมว
ประเภทของขนมแมว:
- ขนมขบเคี้ยว: ขนมประเภทนี้มีไว้สำหรับให้แมวเคี้ยวเล่น ช่วยให้ฟันและเหงือกของแมวแข็งแรง
- ขนมฝึกสอน: ขนมประเภทนี้มีไว้สำหรับใช้ฝึกสอนแมว เพราะมีกลิ่นหอมและรสชาติที่ดึงดูดแมว
- ขนมแบบแท่ง: ขนมประเภทนี้มีลักษณะเป็นแท่ง ช่วยให้แมวเคี้ยวเล่นได้นาน
- ขนมแบบเนื้อ: ขนมประเภทนี้มีลักษณะเป็นเนื้อสัตว์ เหมาะสำหรับเป็นรางวัลพิเศษ
- ขนมแบบครีม: ขนมประเภทนี้มีลักษณะเป็นครีม มีหลายรสชาติ เช่น รสทูน่า รสแซลมอน รสไก่
วิธีเลือกขนมแมว:
- สายพันธุ์: แมวแต่ละสายพันธุ์มีความต้องการสารอาหารแตกต่างกัน
- อายุ: ลูกแมว แมวโต และแมวสูงอายุ มีความต้องการสารอาหารแตกต่างกัน
- สุขภาพ: แมวที่มีปัญหาสุขภาพ เช่น โรคไต โรคหัวใจ ต้องการขนมสูตรเฉพาะ
- กิจกรรม: แมวที่ active มาก ต้องการขนมที่มีพลังงานสูง
- ส่วนผสม: เลือกขนมที่มีส่วนผสมที่มีคุณภาพ ปราศจากสารกันบูด
- ขนาด: เลือกขนมที่มีขนาดเหมาะสมกับแมว
ปริมาณขนมแมว:
- ปริมาณขนมที่ให้แมวกินไม่ควรเกิน 10% ของพลังงานที่แมวต้องการต่อวัน
- ควรให้อาหารเม็ดเป็นอาหารหลัก และให้ขนมเป็นอาหารเสริม
- ควรให้ขนมหลังจากแมวทำพฤติกรรมที่ต้องการ เช่น การนั่ง การหมอบ การอยู่เฉยๆ
ข้อควรระวัง:
- ไม่ควรให้อาหารคนแก่แมวกิน เพราะอาจทำให้แมวป่วยได้
- ไม่ควรให้อาหารที่มีรสเค็มจัด หวานจัด หรือเผ็ด
- ควรเก็บขนมในภาชนะที่ปิดมิดชิด เพื่อป้องกันมดและแมลง
สรุป: ขนมแมวเป็นของว่างที่มอบให้กับแมวเพื่อเป็นรางวัลหรือเพื่อความเพลิดเพลิน เจ้าของแมวควรเลือกขนมให้เหมาะสมกับสายพันธุ์ อายุ สุขภาพ และกิจกรรมของแมว ให้ปริมาณขนมที่เหมาะสม และระวังเรื่องอาหารที่แมวกิน
|